( final project sweet corn )
ได้มีการสืบค้นนข้อมูล ตามขั้นตอน 3 ส .โดย ส.ที่หนึ่งคือการ สืบค้นข้อมูลของข้าวโพดหวาน แหล่งที่ปลูกและชนิดของสายพันธ์ ข้าวโพดหวาน

และการศึกษาผลิตภัณฑ์ที่ จะนำมาออกแบบกราฟฟิกบนบรรจุภัณฑ์
โดยการเลือกการทำน้ำนมข้าวโพดมาเป็นต้นแบบในการศึกษาและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ จากการสืบค้นข้อมูลข้าวโพดหวานทำให้รู้จักที่มาและถิ่นกำเนิดของข้าวโพดและยังทราบว่าแต่ละสายพันธุ์แต่งต่างกันอย่างไรและสามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรและนำไปแปลรูปเป็นอะ
ไรได้บ่าง ข้าวโพดหวานสามารถนำไปทำประโยชน์ได้ทากมายและยังพร้อมด้วยคุณค่า
ทางโภชนาการอีกด้วย จึกนับว่าข้าวโพดหวานเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศษฐกิจอย่างมหาสาร
และผลิตภัณฑ์ที่ยกนำมาพัฒนา ให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากขึ้นคือน้ำนมข้าวโพด เนื่องจากนำ้นมข้าวโพดมีคุณประโยชน์สูง
ทางโภชนาการอีกด้วย จึกนับว่าข้าวโพดหวานเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศษฐกิจอย่างมหาสาร
และผลิตภัณฑ์ที่ยกนำมาพัฒนา ให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากขึ้นคือน้ำนมข้าวโพด เนื่องจากนำ้นมข้าวโพดมีคุณประโยชน์สูง
ขั้นตอนการทำน้ำนมข้าวโพด
1.ทำการคัดข้าวโพดหวานฝักสดนำมาปลอกเปลือกทำความสะอาด
เมล็ดข้าวโพดที่ฝานแล้ว 15 กิโลกรัม เติมเกลือป่นลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
4.ต้มน้ำ 25 ลิตร ให้เดือดแล้วนำเมล็ดข้าวโพดที่ใส่เกลือเตรียมไว้เทลงไปต้มระยะเวลาในการต้ม 12-15 นาที
5.พอต้มครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้นำไปเทลงที่เครื่องปั่นคัดแยกน้ำ และคัดแยกกากออก
6.หลังจากคัดแยกแล้วก็จะทำการนำน้ำข้าวโพดไปกรองบนตะแกรงที่ละเอียดอีกครั้ง
และให้ทำการวัดระดับค่าความหวานของน้ำนมข้าวโพด (ซึ่งการนำมาวัดระดับความหวานน้ำนมข้าวโพดจะให้มีระดับความหวานอยู่ที่ 8 องศาบริก หรือถ้าทำทานในครอบครัวจะใช้ผ้าขาวบางกรองก็ได้ ความหวานอยู่ที่ความต้องการ)
7. หลังจากเติมน้ำเชื่อมจนได้ค่าความหวานที่ 8 องศาบริกแล้วก็จะนำไปกรอกใส่ขวดพลาสติก ปิดฝาให้สนิทส่งไปน็อคด้วยความเย็น (ถังน้ำแข็งที่มีความเย็น 0 องศา) เพื่อช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อ โดยไม่ใส่สารกันเสีย
1.ทำการคัดข้าวโพดหวานฝักสดนำมาปลอกเปลือกทำความสะอาด
2.หลังจากทำความสะอาดข้าวโพดหวานแล้วให้ทำการฝานเมล็ดด้วยมีดหรือ
ถ้ามีปริมาณมากก็นำเข้าเครื่องฝานเมล็ด
3.เมล็ดข้าวโพดที่ผ่านการฝานเมล็ดแล้ว ให้นำมาชั่งน้ำหนัก โดยอัตราการใช้เพื่อนำไปต้มจะใช้เมล็ดข้าวโพดที่ฝานแล้ว 15 กิโลกรัม เติมเกลือป่นลงไป 1 ช้อนโต๊ะ
4.ต้มน้ำ 25 ลิตร ให้เดือดแล้วนำเมล็ดข้าวโพดที่ใส่เกลือเตรียมไว้เทลงไปต้มระยะเวลาในการต้ม 12-15 นาที
5.พอต้มครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว ให้นำไปเทลงที่เครื่องปั่นคัดแยกน้ำ และคัดแยกกากออก
6.หลังจากคัดแยกแล้วก็จะทำการนำน้ำข้าวโพดไปกรองบนตะแกรงที่ละเอียดอีกครั้ง
และให้ทำการวัดระดับค่าความหวานของน้ำนมข้าวโพด (ซึ่งการนำมาวัดระดับความหวานน้ำนมข้าวโพดจะให้มีระดับความหวานอยู่ที่ 8 องศาบริก หรือถ้าทำทานในครอบครัวจะใช้ผ้าขาวบางกรองก็ได้ ความหวานอยู่ที่ความต้องการ)
7. หลังจากเติมน้ำเชื่อมจนได้ค่าความหวานที่ 8 องศาบริกแล้วก็จะนำไปกรอกใส่ขวดพลาสติก ปิดฝาให้สนิทส่งไปน็อคด้วยความเย็น (ถังน้ำแข็งที่มีความเย็น 0 องศา) เพื่อช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อ โดยไม่ใส่สารกันเสีย
วีดีโอรูปภาพการตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่นำมาศึกษา
วีดีโอขวดบรรจุภัณฑ์ที่นำมาศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น